Key Takeaways CVS คือ โรคทางสายตาทำให้เกิดอาการ ตาแห้ง ตาล้า ตาพร่า โฟกัสไม่ได้ แสบตา CVS คือ โรคที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออยู่หน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลานาน หากมีอาการ CVS ควรพักสายตาทุก ๆ 15-20 นาที จัดระดับโต๊ะทำงานให้เหมาะสม หยอดน้ำตาเทียม
รับมือ “ออฟฟิศซินโดรม” โรคยอดฮิตวัยทำงาน อย่าปล่อยไว้นาน
ออฟฟิศซินโดรมปัญหากวนใจใครหลายคน ด้วยสไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก รวมถึงการติดโทรศัพท์มือถือ การเสพสื่อโซเชียลตลอดเวลา จึงยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการออฟฟิศซินโดรม และไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงานออฟฟิศเท่านั้นที่เผชิญปัญหานี้ นักเรียน แม่บ้าน คนขับรถ นักกีฬา และอาชีพอื่น ๆ ก็มีอาการออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน
ออฟฟิศซินโดรม คือ
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ อาการปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ รวมถึงเยื่อพังผืด เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน จนทำให้เกิดความผิดปกติของระบบในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ หรือดวงตา
เช่น การนั่งทำงานในลักษณะที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลา การใช้มือถือนาน ๆ จึงทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ลุกลามตามมาได้
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรมมักเกิดขึ้นจากการทำพฤติกรรมเดิม ๆ ทำให้เกิดการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ ซึ่งตัวอย่างของสาเหตุที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรมมีดังนี้
- นั่งทำงานในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน
- นั่ง ยืน เดินผิดท่าต่อเนื่อง
- จ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป เพ่งสายตามากเกินไป
- สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะเก้าอี้ไม่สมดุลกับร่างกาย อากาศไม่ถ่ายเท เป็นต้น
กลุ่มเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม
ไม่ใช่แค่กลุ่มคนทำงานเท่านั้นที่มีความเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรม แต่ผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ ก็มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน ตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม ได้แก่
- กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ เนื่องจากคนกลุ่มนี้มักจะมีพฤติกรรมนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือเล่นมือถือท่าเดิมนาน ๆ ไม่ค่อยขยับร่างกายหรือเปลี่ยนอิริยาบถ
- นักเรียน นักศึกษา อาจเกิดออฟฟิศซินโดรมได้จากการนั่งเรียนเป็นเวลานาน ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ขยับร่างกาย การก้มหน้า ก้มคออ่านหนังสือหรือทำข้อสอบนาน ๆ
- นักกีฬา และผู้ใช้แรงงาน มักเกิดจากการเคลื่อนไหวผิดท่า การออกแรงมากเกินไป ยกของหนักจนเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บเฉียบพลัน
- แม่บ้าน ที่มักใช้ข้อมือ กวาด ถู ทำความสะอาด หรือต้องลาก ยกของเป็นประจำ
- พนักงานขับรถ ที่ต้องนั่งขับรถเป็นเวลานาน
- อาชีพอื่น ๆ ที่มีการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ในการทำงาน มีความเครียดสูง พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก็อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน
ปรึกษาอาการออฟฟิศซินโดรมกับแพทย์ที่แอป BeDee สะดวก ไม่ต้องเดินทาง
อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอย่างไร
อาการออฟฟิศซินโดรมที่มักพบบ่อย ได้แก่
- ปวดคอ บ่า สะบัก
- ปวดหลัง ปวดไหล่
- ปวดหัว ตึงล้า
- ปวดตา ตาพร่า
- ตาแห้ง
- ปวดข้อมือ ชา นิ้วล็อก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- วูบ
- เหงื่อออก
- หูอื้อ มึนงง
อาการออฟฟิศซินโดรมแบบใดควรพบแพทย์
สังเกตตัวเองหากมีอาการออฟฟิศซินโดรมดังนี้ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
- ปวดศีรษะรุนแรงมากกว่าแต่ก่อน ปวดจนอาเจียน
- ปวดศีรษะติดต่อกันหลายวัน
- มีอาการปวดหลังส่วนล่างเเละมีการร้าวไปที่ก้น ต้นขา น่อง
- ปวดหลังส่วนล่างตอนกลางคืนจนต้องตื่นมารับประทานยา
- ปวดศีรษะ ปวดหลัง หรือส่วนอื่น ๆ จนไม่สามารถนอนหลับได้
- ปวดไหล่ติดต่อกันเป็นเดือน
- ไม่สามารถยกแขนได้
- ไหล่บวม ไหล่ติด
รักษาออฟฟิศซินโดรมอย่างไร
ออฟฟิศซินโดรมคือกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่ต้องอาศัยการดูแลรักษาร่วมกันระหว่างแพทย์และตัวผู้ป่วย เนื่องจากเป็นโรคที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ป่วยเป็นหลัก ในเบื้องต้นออฟฟิศซินโดรมรักษาได้ด้วยการเน้นวิธีทางกายภาพบำบัด การปรับพฤติกรรมซึ่งเป็นการแก้ที่ต้นเหตุของออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะทำให้อาการบาดเจ็บของร่างกายในส่วนนั้น ๆ ลดลง
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญของอาการออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากการที่กล้ามเนื้อไม่ยืดหยุ่นและไม่แข็งแรงพอ จะทำให้ไม่สามารถทนทานต่อการใช้งานกล้ามเนื้อที่ต่อเนื่องยาวนานได้ จนทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมซ้ำ ๆ ไม่หายขาด
กายภาพบำบัด
การรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการทำกายภาพบำบัดมีหลายวิธี สามารถทำได้ทั้งการรักษาด้วยมือหรือการใช้เครื่องมือ เช่น
- Shock Wave หรือการรักษาด้วยคลื่นกระแทก เป็นการรักษาด้วยเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สร้างแรงอัดอากาศสูงส่งไปยังกล้ามเนื้อของผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับรักษาผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมที่มีอาการปวดเรื้อรัง รักษาด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วไม่ดีขึ้น เช่น ปวดไหล่ ปวดหลังปวดข้อศอก เอ็นข้อศอกอักเสบ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดฝ่าเท้าเรื้อรัง โรครองช้ำ ปวดเอ็นร้อยหวาย ปวดเข่า หรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
- การยืดกล้ามเนื้อสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการจัดการกับออฟฟิศซินโดรม ควรหาเวลาพักจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อลุกขึ้น ยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยท่าบริหารร่างกายหรือท่าโยคะง่าย ๆ
รับประทานยา
ผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ ว่าเกิดจากสาเหตุใด มีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์ได้รักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคลสำหรับยาที่ใช้บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม เช่น พาราเซตตามอล ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาบรรเทาการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาคลายเครียด และยาอื่น ๆ ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์หรือรับคำแนะนำจากเภสัชกร
นวดแผนไทย
หลายคนนิยมแก้อาการออฟฟิศซินโดรมด้วยการนวดแผนไทย การนวดแผนไทยช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเครียด สิ่งสำคัญในการนวดคือควรเลือกร้านและนักบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ
ฝังเข็ม
การฝังเข็มเป็นศาสตร์แห่งแพทย์แผนจีน หลายคนนิยมใช้การฝังเข็มเพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น การฝังเข็มช่วยกระตุ้นระบบประสาท ลดความเจ็บปวด ลดการอักเสบ ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยแพทย์จะใช้เข็มเล่มเล็ก ๆ ฝังลงบนจุดที่มีอิทธิพลต่ออวัยวะต่าง ๆ หลังฝังเข็มผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บ ปวด แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ควรเลือกแพทย์และคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญการฝังเข็มโดยเฉพาะ
ยืดกล้ามเนื้อ
การยืดกล้ามเนื้อสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการจัดการกับออฟฟิศซินโดรม ควรหาเวลาพักจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อลุกขึ้น ยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยท่าบริหารร่างกายหรือท่าโยคะง่าย ๆ อย่างน้อย 1 ครั้งต่อชั่วโมง
Shock Wave
Shock Wave หรือการรักษาด้วยคลื่นกระแทก เป็นการรักษาด้วยเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สร้างแรงอัดอากาศสูงส่งไปยังกล้ามเนื้อของผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับรักษาผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมที่มีอาการปวดเรื้อรัง รักษาด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วไม่ดีขึ้น เช่น ปวดไหล่ ปวดหลังปวดข้อศอก เอ็นข้อศอกอักเสบ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดฝ่าเท้าเรื้อรัง โรครองช้ำ ปวดเอ็นร้อยหวาย ปวดเข่า หรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
ปรับสภาพแวดล้อมทำงาน เช่น การนั่ง โต๊ะทำงาน
สภาพแวดล้อมการทำงานอย่างความสูงของโต๊ะและเก้าอี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่ออาการออฟฟิศซินโดรม วิธีการปรับโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสมกับการนั่งทำงานคือ
- ปรับโต๊ะให้ความสูงของหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ระดับสายตา
- เก้าอี้ควรรองรับบริเวณหลังและคอ หรือสามารถปรับให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานได้ตามสะดวก
- ควรปรับเก้าอี้ให้หัวเข่าอยู่ระดับเดียวกับข้อสะโพก
- จัดวางสิ่งของบนโต๊ะทำงานให้อยู่ในระยะที่หยิบถึง โดยไม่ต้องโน้มตัวหรือเอื้อมไปหยิบ
ออฟฟิศซินโดรม ป้องกันอย่างไร
การป้องกันออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผลดีและทำได้ด้วยตัวเอง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอิริยาบถในการทำงานให้ถูกต้อง ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ต้องจัดการเวลาทำงานและพักผ่อนให้เหมาะสม วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรมที่สามารถทำได้ เช่น
- ปรับโต๊ะทำงานให้ความสูงของหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ระดับสายตา
- เก้าอี้ควรรองรับบริเวณหลังและคอ หรือสามารถปรับให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานได้ตามสะดวก
- ควรปรับเก้าอี้ให้หัวเข่าอยู่ระดับเดียวกับข้อสะโพก
- จัดวางสิ่งของบนโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ อยู่ในระยะที่หยิบของใช้ได้ง่าย โดยไม่ต้องโน้มตัวหรือเอื้อมไปหยิบ
- ไม่นั่งหลังค่อม เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ
- พักสายตาจากคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทุก ๆ 20 นาที
- จอคอมพิวเตอร์ควรตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา 15 องศา จะช่วยลดอาการปวดตา ปวดคอ
- ปรับความสว่างหน้าจอประมาณ 3 เท่าจากความสว่างของสภาพแวดล้อม
- วางโทรศัพท์มือถือลงบ้าง ไม่ใช้งานอยู่ตลอดเวลา
สรุปเรื่องออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมอาจจะดูเป็นโรคที่ไม่รุนแรงแต่ที่จริงแล้วตัวโรคเหมือนภัยเงียบที่ค่อย ๆ ลุกลามไปสู่โรคอื่น ๆ เรื้อรังจนสร้างความทรมานเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยได้ อาการออฟฟิศซินโดรมมักเป็น ๆ หาย ๆ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยชะล่าใจไม่ได้พบแพทย์ รีบรักษาวันนี้ ประหยัดค่ารักษาในอนาคตได้มากกว่า
หากไม่แน่ใจว่าอาการออฟฟิศซินโดรมที่เป็นอยู่นั้นมีความรุนแรงหรืออันตรายแค่ไหน หรือควรจะรักษาอาการเจ็บปวดอย่างไร สามารถปรึกษาแพทย์และเภสัชกรจาก BDMS บน BeDee ได้ทุกวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา สะดวก ไม่ต้องเดินทาง สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
พว. มุทิตา คำวิเศษณ์
พยาบาลวิชาชีพ
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Issaragrisil, Dr. P. (n.d.). Preventing office syndrome while working from home. Bangkok Hospital. https://www.bangkokhospital.com/en/content/work-from-home-and-office-syndrome
Yeo, M. (2021). Office Syndrome – Causes, Symptoms Treatments. DTAP Medical Clinic | GP STD HIV Testing Clinic Singapore. https://www.dtapclinic.com/articles/office-syndrome-causes-symptoms-treatments/