วิธีเลิกคิดมาก

Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

Key Takeaways

 

  • อาการคิดมากเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางด้านจิตใจ พฤติกรรม และชีวภาพ 
  • เมื่อสมองของเราไม่หยุดคิดจะทำให้เกิดความวิตกกังวล ความเครียด นอนไม่หลับ และอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้
  • หากเกิดความเครียด กังวลเรื่องปัญหาที่จะเกิดขึ้น สามารถปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกได้ทันที
สารบัญบทความ

คิดมากเกิดจากอะไร ?

โรคคิดมาก คิดไปเอง

เคยไหมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนคิดไม่หยุด คิดเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงหรือไม่ก็คิดถึงอดีตที่เราไม่สามารถแก้ไขหรือทำอะไรได้ หรือเรียกได้ว่าเป็นคนคิดมากจนปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่หลายครั้งเราก็มักจะจดจ่ออยู่กับมันจนไม่มีสมาธิจะทำงานหรือเรียนหนังสือ คิดซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ไม่สามารถหลุดออกจากความคิดความกังวลเหล่านั้นได้ 

 

อาการคิดมาก (Overthinking) เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางจิตใจ พฤติกรรม และชีวภาพ เช่น

 

  • ความเครียดและความกังวล การเผชิญปัญหาที่กดดัน
  • ความกลัวและไม่มั่นใจ กลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์
  • บุคลิกภาพประเภทคนคิดไม่หยุด เช่น Highly Sensitive Person ทำให้บางคนมีความคิดละเอียดและให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง
  • ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ความผิดปกติทางอารมณ์อาจทำให้คิดเยอะเกี่ยวกับอดีตหรืออนาคต

 

อาการคิดมาก คิดวนไปวนมาแบบนี้หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิด โรคเครียดโรควิตกกังวล และอาจส่งผลให้ นอนไม่หลับ หรือนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ได้

10 วิธีเลิกคิดมาก ดึงตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน

โรคคิดมาก

วิธีเลิกคิดมากนั้นสามารถเลือกวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ เพราะไม่ใช่ทุกวิธีจะเหมาะสมกับทุกคนเสมอไป นอกจากนี้การหยุดคิดเยอะนั้นจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจึงจะสามารถหยุดคิดได้เร็วขึ้น BeDee มี 10 วิธีเลิกคนคิดไม่หยุดแนะนำดังนี้

1. ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ 

เพราะมนุษย์เราทุกคนล้วนผิดพลาด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบและไม่เคยพลาดเลย เราจำเป็นต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งอาจไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ความไม่สมบูรณ์แบบไม่ใช่ความผิดพลาด กลับกันแทนที่จะกังวลมากเกินไปให้มองว่ามันคือการเรียนรู้ เพราะได้เรียนรู้เราจึงเติบโตขึ้นและมีภูมิคุ้มกันที่จะสู้กับปัญหาในอนาคตได้เก่งขึ้น

2. มองโลกตามความเป็นจริง 

วิธีเลิกคิดมากคือการอยู่กับความเป็นจริง อย่าพยายามรีบด่วนสรุปว่า เดี๋ยวมันต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ ฉันทำไม่ได้แน่ ๆ หรือพยายามตัดสินโลกในแง่ร้าย เพราะการคิดไปเองจะทำให้เรายิ่งวิตกกังวล และบางทีเรื่องราวอาจไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้

3. ปล่องวางเรื่องราวในอดีต 

ไม่แปลกเลยที่คุณอาจจะคิดทบทวน คิดไม่หยุดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วอดีต หลายคนอาจจะยังผูกติด ไม่หยุดคิดถึงอดีตด้วยความรู้สึกเสียดาย เสียใจ เจ็บใจ โทษตัวเอง โทษคนอื่น แต่ทั้งหมดมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ สิ่งที่ทำได้คือการทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอดีตที่จะทำให้เราเสียใจอีกครั้ง

4. ระบายความคิดและความรู้สึก 

เราไม่จำเป็นต้องกักเก็บความรู้สึกอัดแน่นไว้คนเดียว ลองหาคนที่เราไว้ใจ สบายใจด้วย และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พวกเขาฟัง หรือบางคนอาจจะถนัดการเขียนระบายความรู้สึกก็สามารถเขียนไดอารี่เพื่อบรรยายความคิดความรู้สึกออกมาได้ การระบายความรู้สึกจะช่วยให้เราสบายใจขึ้น

5. หาสิ่งที่อยากโฟกัสใหม่ ๆ 

การทำสิ่งใหม่ ๆ เป็นวิธีเลิกคิดมากที่ดีวิธีหนึ่ง เพราะการทำสิ่งใหม่ ๆ จะช่วยดึงความสนใจออกจากความคิดฟุ้งซ่าน กิจกรรมที่แนะนำ เช่น เล่นดนตรี วาดภาพ ถ่ายภาพ ฝึกทำอาหาร ฝึกโยคะ ทำสมาธิ ออกกำลังกาย เดินเล่นในสวน ไปเที่ยว จัดห้องใหม่ หรือเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัคร จะช่วยให้ได้พบปะผู้คนและรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น

6. ปรับเปลี่ยนวิธีคิด 

ลองถามตัวเองว่า “สิ่งที่ฉันคิดตอนนี้มีประโยชน์อะไรไหม?” ถ้าไม่ ก็ลองเปลี่ยนความสนใจไปทำอย่างอื่น แยกแยะสิ่งที่ควบคุมได้กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ถ้าควบคุมได้ให้ลงมือทำ เช่น ถ้ากังวลเรื่องงาน ก็วางแผนให้ชัดเจน แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ให้ปล่อยวาง เช่น ถ้ากังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไง ก็เตือนตัวเองว่า “เราควบคุมความคิดคนอื่นไม่ได้” และหยุดคิด หยุดกังวลเรื่องนี้

7. หยุดจินตนาการด้านลบ

วิธีปล่อยวาง ไม่คิดมากวิธีนี้คือการดึงตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน เพราะการอยู่กับความคิดในจินตนาการด้านลบก็เหมือนทำให้เราคิดวกวนได้ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นลองหาวิธีดึงความคิดตัวเอง ดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน เช่น การฝึกลมหายใจ หรือการฝึก Grounding Technique

8. บันทึกความสำเร็จเล็ก ๆ 

การได้เห็นความสำเร็จของตัวเองในแต่ละวันจะทำให้เรามีความมั่นใจ ภูมิใจ มี Self-Esteem ที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้เราเลิกคิดมาก รู้สึกวิตกกังวลต่อสิ่งที่ยังมาไม่ถึงน้อยลง ความสำเร็จในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แค่การทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งแล้ว

9. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน 

วิธีเลิกคิดมากที่สำคัญวิธีหนึ่งก็คือการอยู่กับปัจจุบัน การที่เราคิดเยอะ คิดไม่หยุด ไม่สบายใจ ก็เพราะเราคิดถึงเรื่องในอดีตหรือไม่ก็เรื่องในอนาคตที่ไม่สามารถควบคุมได้ การดึงสติตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบันอาจจะทำได้ยากในตอนแรก จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนเพื่อให้เรารู้ทันอารมณ์ความคิดของตัวเองและดึงความคิดกลับมา

10. ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิก

การปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกเป็นการรับมือกับอาการคิดมากที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิกจะช่วยให้ปรับความคิด รู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองและยังช่วยให้เราจัดการกับปัญหาและความรู้สึกของตัวเองได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

 

ปรึกษาจิตแพทย์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน สะดวก เป็นส่วนตัว 

ส่งยาถึงที่ ไม่มีค่าจัดส่ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการคิดมาก

1. เป็นคนคิดมากมีข้อเสียอย่างไรบ้าง ? 

อาการคิดมากนั้นไม่ใช่ข้อเสียโดยตรง แต่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น ปวดหัว นอนไม่หลับ วิตกกังวล หรืออาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นหากรู้ตัวว่าเป็นคนคิดเยอะ ควรหาวิธีจัดการความคิดหรือจัดการความเครียด

2. โรคคิดมากรักษายังไงหาย ? 

หลายคนสงสัยว่าโรคคิดมาก รักษายังไง? คำตอบคือ อาการคิดไม่หยุดไม่ใช่โรคแต่เป็นภาวะหนึ่งที่เกิดจากความเครียด ความกดดัน ความกังวลต่อปัญหาบางอย่าง วิธีการลดอาการคิดเยอะคือการจัดการกับความคิด ดึงความคิดตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน จัดการในเรื่องที่เราสามารถจัดการหรือควบคุมได้ และปล่อยวางเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้

วิธีเลิกคิดมากทำอย่างไรให้ได้ผล ปรึกษาจิตแพทย์ได้ที่นี่

ความคิดที่วกวน ฟุ้งซ่าน ทำให้เรานอนไม่หลับ เกิดความเครียด ไม่มีสมาธิและยังเหนื่อยล้าต่อการใช้ชีวิตประจำวัน วิธีแก้ไขคือการหาทางจัดการกับความคิด ความกังวลของตัวเองโดยเร็วที่สุด สามารถรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกได้ ปรึกษาหมอออนไลน์ ปรึกษาพยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรได้เลยที่นี่ 

 

BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพจิตที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ

 

สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

Content powered by BeDee Expert

สิธยา อนุสนธิ์
นักจิตวิทยาคลินิก

 

เรียบเรียงโดย

กรวรรณ ใจซื่อกุล

Maenpaa, J. (2022, February 25). A psychotherapist shares the 3 exercises she uses every day “to stop overthinking”. CNBC. https://www.cnbc.com/2022/02/25/a-psychotherapist-shares-the-exercises-she-uses-every-day-to-stop-overthinking.html

 

News, A. (2024, March 10). How can I stop overthinking everything? A clinical psychologist offers solutions. ABC News. https://www.abc.net.au/news/2024-03-10/how-can-i-stop-overthinking-everything-psychologist-solutions/103546326

 

Wilding, M. (2021, February 10). How to Stop Overthinking Everything. Harvard Business Review. https://hbr.org/2021/02/how-to-stop-overthinking-everything

บทความที่เกี่ยวข้อง

พูดถึงโรคซึมเศร้า เราอาจจะนึกถึงภาพถึงกลุ่มคนในช่วงอายุวัยรุ่น วัยทำงาน ที่ป่วยเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นในช่วงหลังมานี้ แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งที่เราอาจไม่ได้นึกถึงว่าอาจเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าได้เช่นกันได้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้นอันตรายไม่ต่

Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง Key Takeaways Gaslighting คือพฤติกรรมหรือเทคนิคการชักจูงทางจิตวิทยาที่บุคคลหนึ่งพยายามทำให้อีก