สารบัญบทความ รู้จักกับ Burnout คืออะไร? ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ จิตใจ ที่เกิดขึ้นจากความเครียดในการทำงานเป็นระยะเวลานาน และขาดวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเครียดเรื้อรัง ทำให้รู้สึกอ่อนล้า
สังเกต 10 สัญญาณเตือน “แฟนนอกใจ” ที่อาจบอกว่าแฟนเรากำลัง “แอบแซ่บ” กับคนอื่น
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- ปัญหาแฟนนอกใจหลายครั้งมักเกิดจากความไม่เข้าใจกันจึงทำให้เกิดความไม่เชื่อใจ หวาดระแวง ตีตัวออกห่าง
- สัญญาณการนอกใจ เช่น หลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องอนาคต ใช้เวลาด้วยกันน้อยลง มีข้อโต้แย้งกับทุกเรื่อง เคลียร์ประวัติการใช้โทรศัพท์อยู่เสมอ
- หากมีปัญหาด้านความรัก ความสัมพันธ์ ไม่ควรปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ทำร้ายความรู้สึก สามารถปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกได้ทันที
แฟนนอกใจเกิดจากอะไร?
พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ในด้านความรักเชื่อว่าหลายคนต้องให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ความจริงใจ ความเชื่อใจกันและกันเป็นอันดับแรก ๆ เพราะทุกคู่ล้วนไม่อยากให้ความสัมพันธ์ต้องเดินมาถึงจุดที่เรียกว่า “แฟนนอกใจ” หลายครั้งปัญหานี้มักเกิดจากความไม่เข้าใจกันจึงทำให้เกิดความไม่เชื่อใจ หวาดระแวง ตีตัวออกห่าง ทำให้เกิดเป็น Toxic Relationship ซึ่งหากคู่รักไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้ทันเวลา ปล่อยปัญหาเอาไว้โดยไม่ปรับความเข้าใจกันก็อาจทำให้เกิดปัญหาชู้สาวในที่สุด
BeDee Tips: วิธีมูฟออน จากความรักที่จบไปทำอย่างไรดี ? อ่านเลย
10 สัญญาณเตือนแฟนนอกใจที่ต้องสังเกต
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแฟนนอกใจ ? มีคำพูดหรือการกระทำใดบ้างที่จะช่วยให้เราสังเกตเห็น วันนี้ BeDee มี 10 สัญญาณที่อาจกำลังเตือนว่าคนรักของคุณอาจกำลังนอกใจมาให้ลองสังเกตกัน อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น
1. หลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องอนาคต
สัญญาณเตือนแฟนนอกใจข้อแรกคือการที่อีกฝ่ายมีท่าทีหลบเลี่ยงการพูดถึงอนาคต เมื่อเกิดการวางแผนเรื่องอนาคตเกิดขึ้น เช่น การซื้อบ้าน แต่งงาน วางแผนมีลูก อีกฝ่ายมักพยายามไม่ตอบ หรือไม่พูดถึงความคิดเห็นของตัวเอง พยายามหลบสายตา อ้างว่ายังไม่พร้อม ยังไม่ถึงเวลา รออีกหน่อยดีกว่า
2. ใช้เวลาด้วยกันน้อยลง
อีกสิ่งที่สามารถสังเกตได้เมื่อแฟนนอกใจคือการใช้เวลาร่วมกันน้อยลง มีความห่างเหินมากขึ้น โดยที่อีกฝ่ายมักอ้างว่าไม่ว่าง ติดธุระเรื่องอื่น ๆ หรืองานยุ่ง พยายามปลีกตัวออกไปคนเดียวอยู่เสมอ จะนัดหมายทำอะไรก็ไม่เคยว่าง กลับบ้านดึก หรือออกจากบ้านแต่เช้า พบเจอตัวได้ยากขึ้น
3. มีข้อโต้แย้งกับทุกเรื่อง
หลายครั้งที่คุณเสนอความคิดเห็นหรือตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตามจะสังเกตว่าอีกฝ่ายมักไม่เห็นด้วย มีข้อโต้แย้งไปซะหมด นั่นอาจเป็นเพราะเขากำลังพยายามปกปิดความผิด หรือเบี่ยงเบนความสนใจจากการกระทำของตัวเอง กลายเป็นว่าไม่ว่าจะพูดอะไรกันก็ดูจะขัดคอกันไปซะหมด
4. ลบแชตในโทรศัพท์
ในกรณีที่เราตกลงกันแล้วว่าสามารถเช็กโทรศัพท์อีกฝ่ายได้ อาจพบว่ามีการลบประวัติการโทรเข้าออกจนดูน่าสงสัย ผิดปกติ ลบแชต ลบข้อความ ทั้ง ๆ ที่ในอดีตไม่เคยทำเช่นนี้ นี่อาจเป็นสัญญาณของการนอกใจได้
5. แอบใช้โทรศัพท์ในขณะที่เราเผลอ
เมื่อเราเผลออีกฝ่ายมักจะแอบโทรศัพท์หรือแอบแชต พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เราเห็น ดูมีพิรุธและพยายามปกปิดบางอย่าง
6. ทำให้อีกคนตกเป็นฝ่ายผิด
การทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นเหยื่อหรือที่เรียกว่า Gaslighting เป็นอีกหนึ่งสัญญาณการนอกใจ โดยวิธีการคือมักพูดจาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าจำผิดไปเองหรือเข้าใจผิดไปเอง เช่น “ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น” “เธอคิดไปเองคนเดียว” “ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะเธองี่เง่า ไม่มีเหตุผล” เรียกได้ว่าวิธีนี้เป็นอาชกรรมทางจิตวิทยารูปแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้
7. มีความลับมากขึ้น
อาจสังเกตได้จากการเปลี่ยนรหัสผ่านโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หวงสิ่งของ หรือหวงพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น และจะโมโหมากเมื่อเราเข้าไปยุ่งกับพื้นที่หรือสิ่งของต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ในอดีตสามารถทำได้
8. หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
บ่อยครั้งแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายโมโห หงุดหงิดง่ายกว่าแต่ก่อน อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย เช่น หากเราเผลอไปจับโทรศัพท์ของอีกฝ่าย หรือถามบางอย่าง อีกฝ่ายอาจจะตะโกน ขึ้นเสียง
9. โพสต์หรือพูดถึงเราในโซเชียลน้อยลง
หากในอดีตเคยมีการลงรูปคู่ หรือแท็กหากันในโซเชียล เมื่อแฟนเริ่มนอกใจจะสังเกตได้ว่าเขามีพฤติกรรมเหล่านั้นน้อยลงกว่าในอดีต เช่น ไม่แท็กหา พยายามไม่ลงรูปคู่ ไม่เปิดเผยตัวเราในโซเชียล
10. พูดคุย สื่อสารกันน้อยลง
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเมื่ออีกฝ่ายเริ่มมีใจออกห่างจากเราย่อมทำให้มีการสื่อสารหรือพูดคุยกันน้อยลง ไม่ค่อยใส่ใจกัน ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกกัน และเมื่อสื่อสารกันน้อยลงจึงทำให้เกิดความห่างเหินและเกิดความเข้าใจผิดตามมา
อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถใช้ตัดสินได้แน่นอนว่าแฟนของเรากำลังนอกใจ หากมีปัญหาแนะนำให้พูดคุยกันหรือปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเพื่อหาวิธีรับมืออย่างเหมาะสม
วิธีรับมือแฟนนอกใจอย่างไม่ใช้อารมณ์
เมื่อเราทราบสัญญาณเตือนของการนอกใจทั้ง 10 ข้อแล้ว สิ่งต่อไปที่ควรให้ความสำคัญคือวิธีการรับมือจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีสติสำหรับทุกฝ่าย BeDee มีวิธีรับมือเมื่อแฟนนอกใจมาแนะนำดังนี้
- พูดคุยอย่างตรงไปตรงมาเมื่อพร้อม
พยายามไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุย เปิดใจพูดคุยเพื่อบอกความรู้สึกของตัวเองและสิ่งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ สิ่งสำคัญคือควรใช้เหตุผลและภาษาที่เป็นมิตรในการพูดคุย รับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย ให้โอกาสอีกฝ่ายแสดงความคิดเห็นในมุมของตัวเอง
- ไม่โทษตัวเอง
อย่าโทษว่าเป็นเพราะฉันทำแบบนี้ เพราะฉันเป็นคนแบบนี้แน่ ๆ ถึงทำให้อีกฝ่ายนอกใจจนมีคนอื่น การนอกใจเป็นการกระทำของอีกฝ่าย และเป็นการตัดสินใจของเขา ไม่ใช่ความผิดของคุณ ต่อให้คุณเป็นแฟนที่ดีที่สุด ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะซื่อสัตย์ เพราะการนอกใจไม่ได้เกิดจาก “คุณไม่ดีพอ”
- ให้เวลากับการเยียวยาตัวเอง
สิ่งที่ควรให้ความเข้าใจคือเราไม่ได้ผิดที่ต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ใช้เวลาในการดูแลตัวเอง สร้างความมั่นใจ และฟื้นฟูสุขภาพจิต
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากมีปัญหาในความสัมพันธ์ การปรึกษานักจิตวิทยาคลินิกหรือจิตแพทย์จะช่วยให้เราปรับวิธีคิดและมีวิธีการรับมือกับปัญหาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ปรึกษาจิตแพทย์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน สะดวก เป็นส่วนตัว
ส่งยาถึงที่ ไม่มีค่าจัดส่ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแฟนนอกใจ
1. แฟนนอกใจ ควรให้โอกาสไหม?
การจะไปต่อกับความสัมพันธ์ครั้งนี้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพูดคุยและตกลงของทั้งสองฝ่าย หากคุณคิดว่าอีกฝ่ายแสดงความจริงใจ พร้อมที่จะปรับปรุงตัว และคุณยังอยากไปต่อกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ก็สามารถตัดสินใจได้ อย่างไรก็ตามควรพิจารณาจากความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก หากความรักในครั้งนี้ต้องฝืนความรู้สึก บั่นทอนจิตใจตัวเองมากกว่าความสุขที่ได้รับก็ไม่อาจไม่ควรไปต่อ
2. แฟนนอกใจแต่ยังรักอยู่ทำอย่างไรดี?
กรณีที่ทั้งคู่ยังรักอยู่และอยากให้โอกาสอีกครั้ง โดยฝ่ายที่นอกใจต้องเลิกพฤติกรรมดังกล่าวเด็ดขาดแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สภาพจิตใจของฝ่ายที่ถูกแฟนนอกใจ ต้องลองถามใจตัวเองดูว่าสามารถมองข้ามผ่านเหตุการณ์ที่เคยถูกคนรักนอกใจได้หรือไม่ ถ้าใจบอกว่าได้ การกระทำก็ต้องได้เหมือนกัน โดยต้องไม่พูดถึงอดีตที่เคยถูกนอกใจ ต้องไม่คิดถึงเหตุการณ์นั้นและต้องไม่ยกขึ้นมาพูดหรือเปรียบเทียบเมื่อเวลาทะเลาะกัน หรือเกิดปัญหา คู่รักต้องทำข้อตกลงกันเพื่อไม่เกิดการกระตุ้นเร้าอารมณ์กัน
สำหรับกรณีที่ฝ่ายที่นอกใจไม่ยอมเลิกหรือหยุดพฤติกรรมดังกล่าว สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องตัดใจและหันกลับมารักตัวเองให้มาก อย่าปล่อยให้ใจเราต้องถูกใครเอาเปรียบ ควรจะให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขด้วยตัวเอง โดยที่ไม่เอาความสุขของเราไปฝากไว้ที่คนอื่นที่ไม่ได้รักเราแล้ว
แฟนนอกใจ มีปัญหาความรัก ปรึกษาจิตแพทย์ได้เลยที่นี่
เรื่องความรัก ความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนละเปราะบาง และอาจทำให้เราจัดการกับความคิดหรือความรู้สึกได้ไม่เหมาะสม หากมีปัญหาความรัก ความสัมพันธ์ ทั้งเรื่องส่วนตัว การเรียน การทำงาน ครอบครัว สามารถรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกได้ ปรึกษาหมอออนไลน์ ปรึกษาพยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรได้เลยที่นี่
BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพจิตที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
สิธยา อนุสนธิ์
นักจิตวิทยาคลินิก
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
6 Signs That Your Spouse Is Having an Emotional Affair. (2019). Psychology Today. https://www.psychologytoday.com/intl/blog/in-flux/201903/6-signs-that-your-spouse-is-having-an-emotional-affair
Koch, K., & Strinchcombe, C. (2020, December 21). 17 Signs Your Partner Might be Having an Affair. Woman’s Day. https://www.womansday.com/relationships/dating-marriage/advice/a1586/11-signs-that-he-might-be-having-an-affair-107288/
Signs of an Emotional Affair. (n.d.). Choosing Therapy. https://www.choosingtherapy.com/emotional-affair/