Key Takeaways คนท้องนอนไม่หลับเป็นอาการที่พบได้ในช่วงตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย ฮอร์โมน และอารมณ์ หากคุณแม่มีอาการนอนไม่หลับควรหาวิธีผ่อนคลายโดยไม่ใช้ยานอนหลับ เพราะอาจส่งผลต่อทารก หากมีอาการนอนไม่หลับรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซ
7 วิธีรับมือกับความเครียดเรื่องงาน ดูแลสุขภาพจิตง่าย ๆ ให้ชีวิตมีความสุข
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- ความเครียดเรื่องงานมักเกิดจากปริมาณงานที่มากเกินไป ความกดดัน ความยากของงาน ความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
- ความเครียดส่งผลต่อร่างกาย อารมณ์ และพฤติกรรม เช่น ปวดศีรษะ ตึงคอบ่าไหล่ ท้องอืด ปวดท้อง นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน
- เราสามารถจัดการกับความเครียดได้ด้วยวิธีการ เช่น ออกไปท่องเที่ยว ทำงานอดิเรก กำหนดขอบเขตการทำงาน หรือปรึกษาจิตแพทย์
เครียดเรื่องงานสาเหตุเกิดจากอะไร ?
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเครียดเรื่องงานจนนอนไม่หลับเครียดเรื่องงานตลอดเวลาหยุดคิดไม่ได้ ซึ่งเราอาจจะรู้แค่ว่าเรากำลังเครียด แต่อาจจะไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมจึงเครียดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการจะจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นให้ได้ โดยปกติแล้วความเครียดเรื่องงานมักเกิดจากสาเหตุดังนี้
- ปริมาณงานมากเกินไป ทำงานไม่ทันหรือไม่มีเวลาพักจนหมดแพชชั่น
- ความยาก ความซับซ้อนของงาน ต้องใช้ความคิดมาก อาจทำให้ทํางานผิดพลาดจนเครียด
- เดดไลน์หรือระยะเวลาที่กระชั้นชิด ต้องทำงานให้เสร็จภายในเวลาจำกัด
- ความคาดหวังที่สูงเกินไปทั้งจากตัวเองและผู้อื่นทำให้เกิดความกดดัน
- บรรยากาศตึงเครียดในที่ทำงาน ไม่มีความผ่อนคลาย
- เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าไม่เป็นมิตร ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ให้ความช่วยเหลือ ชอบวิจารณ์
- ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้าหรือองค์กรเมื่อมีปัญหา
- ความขัดแย้งในที่ทำงาน
- ขาดสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว Work Life Balance
- มีภาระทางการเงินที่ต้องรับผิดชอบทำให้ไม่กล้าลาออก
- ขาดทักษะในการจัดการกับความเครียด
BeDee Tips: ไม่แน่ว่าความเครียดที่เกิดขึ้นรุนแรงแค่ไหน ทำแบบประเมินความเครียดได้เลยที่นี่
ความเครียดส่งผลกระทบอย่างไร ?
ความเครียดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันโดยที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต แม้ว่าความเครียดในระดับที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นให้เราพร้อมรับมือกับปัญหา แต่หากเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย จิตใจ และสะท้อนออกมาในรูปแบบพฤติกรรมได้ดังนี้
ร่างกาย
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตึงตามตัว ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ มือเท้าเย็น หายใจไม่สุด และเจ็บหน้าอก
- ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้อง กรดไหลย้อน
- กรดในกระเพาะอาหาร
- ท้องอืด ท้องร่วง หรือท้องผูก
- มีปัญหาการนอนหลับ
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัด หรือภูมิแพ้
จิตใจ
- อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น หม่นหมอง ไม่สดใสร่าเริง ไม่มีความสุข หรืออาจหงุดหงิดง่ายขึ้น
- วิตกกังวลและซึมเศร้า และหมดกำลังใจ
- ขาดแรงจูงใจ ไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ
- หมดไฟในการทำงาน
- อาจเกิดโรคเครียด หรือ โรคเครียดสะสม หากปล่อยไว้นาน
พฤติกรรม
- รับประทานอาหารมากขึ้นหรือน้อยลงกว่าปกติ
- แยกตัวออกจากสังคมหรือคนรอบข้าง
- ไม่มีสมาธิหรือสมาธิสั้น วอกแวกง่าย
- ใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์
7 วิธีรับมือความเครียดเรื่องงาน
สิ่งสำคัญเมื่อเกิดความเครียดคือวิธีการรับมือและจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเครียดนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว BeDee มี 7 วิธีรับมือความเครียดเรื่องงานมาแนะนำดังนี้
1. แก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด
ถ้าอยากจะลดความเครียดเรื่องงานวิธีที่ควรทำอันดับแรก ๆ ก็คือการแก้ไขที่ต้นเหตุ การแก้ที่สาเหตุหรือเรื่องที่ทำให้เราเกิดความเครียดนั้นเป็นการแก้ความเครียดที่ต้นตอ พยายามหาแนวทางการแก้ไขปัญหา พูดคุยกับหัวหน้างานเพื่อชี้แจงเหตุผล สิ่งที่สามารถทำได้ และสิ่งที่ต้องการปรับหรือต้องการความช่วยเหลือ
2. กำหนดขอบเขตการทำงาน
กำหนดขอบเขตการทำงาน (Work Boundaries) กับหัวหน้างานอย่างชัดเจน เช่น ฉันจะทำงานตั้งแต่ 8.00 – 17.00 น. เท่านั้น พยายามทำงานในช่วงเวลาที่กำหนด และไม่ทำงานเกินเวลาที่วางไว้
หลีกเลี่ยงการเช็กอีเมลหรือข้อความงานนอกเวลางานถ้าไม่จำเป็น ระหว่างวันควรมีช่วงพักสั้น ๆ เช่น ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง อาจจะเดินเล่นหรือออกไปสูดอากาศ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนเป็นวิธีจัดการความเครียดที่หลายคนเลือกใช้ แต่เราต้องนอนให้มีคุณภาพด้วย แม้เราจะนอนครบ 8 ชั่วโมงแต่เข้านอนดึกมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน สำหรับช่วงเวลาที่ควรเข้านอนมากที่สุดคือตั้งแต่ 20.00-22.00 น. เมื่อนอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้วจะช่วยให้เราตื่นมาอย่างสดชื่น สมองปลอดโปร่ง มีสติจัดการกับปัญหา
4. ฝึกการผ่อนคลาย
ผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดเรื่องงานด้วยการทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หรือการฝึกลมหายใจเพื่อผ่อนคลาย
5. ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมที่สนใจ
วิธีคลายเครียดจากงานลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการไปเที่ยว ชื่นชมธรรมชาติ ออกไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ หรือลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำ เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นโยคะ ทำเวิร์คช้อปต่าง ๆ
6. ออกกำลังกาย
อยากคลายเครียดเรื่องงานลองหันมาออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุข ทำให้เรารู้สึกมีความสุข เคลิบเคลิ้ม อิ่มอกอิ่มใจ คลายเครียด อยากอาหารมากขึ้น ช่วยหลั่งฮอร์โมนเพศ และเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ เช่น เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือเล่นโยคะเบา ๆ ก็ช่วยเบี่ยงเบนสมองของเราจากความเครียดได้แล้ว
7. ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิก
การปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกเป็นการรับมือกับความเครียดเรื่องงานอย่างหนึ่งที่ดีมาก เนื่องจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิกจะช่วยให้ปรับความคิด รู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย และยังช่วยให้เราจัดการกับปัญหาและความรู้สึกของตัวเองได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ปรึกษาจิตแพทย์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน สะดวก เป็นส่วนตัว
ส่งยาถึงที่ ไม่มีค่าจัดส่ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเครียดเรื่องงาน
1. เครียดเรื่องงาน นอนไม่หลับ ทำไงดี?
ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเวลา ไม่ควรเปลี่ยนเวลาเข้านอนหรือตื่นไปมา งดเล่นโทรศัพท์ เล่นคอมพิวเตอร์ก่อนนอน งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังเที่ยง เช่น น้ำชา ชาเขียว ช็อคโกแลต น้ำอัดลม
ควรหากิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกผ่อนคลายก่อนที่จะเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมร่างกายให้สงบลงก่อนที่จะเข้านอน เช่น อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ ฟังเพลงผ่อนคลาย หรือใช้กลิ่นลาเวนเดอร์ นอกจากนี้ หากนอนไม่หลับหลังจากเข้านอนมากกว่า 20 นาทีไม่ควรบังคับตัวเองให้พยายามนอนต่อ ควรลุกขึ้นมาทำกิจกรรมที่จะทำให้สงบผ่อนคลายข้างต้น
2. เครียดเรื่องงานมากแค่ไหนจึงควรหาหมอ
หากรู้สึกว่าความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เกิดความเจ็บป่วยต่อร่างกาย นอนไม่หลับ หรืออาการที่ส่งผลกระทบอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์ทันทีเพื่อจัดการกับความเครียดและโรคเครียดที่เกิดขึ้นทั้งการรักษาด้วยการใช้ยา การพูดคุยเพื่อปรับความคิด รวมถึงป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
BeDee Tips: หมดไฟในการทํางาน วิธีแก้ ทำอย่างไรดี อ่านเลย
เครียดเรื่องงานปรึกษาจิตแพทย์ได้ที่ BeDee
ความเครียดเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม หากเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ร่างกายสามารถปรับตัวได้ แต่หากสะสมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า
เมื่อมีความเครียดสามารถปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกเพื่อรับคำแนะนำและวิธีดูแลสุขภาพจิตอย่างถูกต้อง การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นก้าวสำคัญในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ปรึกษาหมอออนไลน์ ปรึกษาพยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรได้เลยที่นี่
BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพใจที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Coping with stress at work. (2014, July 1). American Psychological Association. https://www.apa.org/topics/healthy-workplaces/work-stress
LeBlanc, N., & Marques, L. (2019, April 15). How to handle stress at work – Harvard Health Blog. Harvard Health Blog. https://www.health.harvard.edu/blog/how-to-handle-stress-at-work-2019041716436
Work and Stress. (2020, December). Mind. https://www.mind.org.uk/information-support/tips-for-everyday-living/how-to-be-mentally-healthy-at-work/work-and-stress/