กรดไหลย้อน โรคที่พบได้บ่อยมากขึ้นเนื่องจากรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทั้งผู้ที่มีโรคเครียด ขาดการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อย รับประทานอาหารแล้วนอนทันที ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น สร้างควา
ผื่นกุหลาบ ผื่นขุยสีแดงที่พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- ผื่นกุหลาบ (Pityriasis Rosea) คืออาการทางผิวหนังที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส ชนิดหนึ่งมักพบในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10-35 ปี มักเกิดในช่วงฤดูหนาว
- อาการมักเริ่มต้นด้วยผื่นแดงวงกลมหรือวงรีขนาดใหญ่เรียกว่า “ผื่นนำ” มีลักษณะเป็นขุยเล็กน้อย จากนั้นจะพบผื่นลักษณะคล้ายต้นคริสต์มาส (Christmas Tree Pattern) และอาจมีอาการคันร่วมด้วย
- วิธีป้องกันนั้นสามารถทำได้โดยการดูแลรักษาสุขภาพโดยรวมและดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
ผื่นกุหลาบคืออะไร?
“ผื่นกุหลาบ” (Pityriasis Rosea) หรือบางคนอาจเรียกว่า “ผื่นดอกกุหลาบ” หรือ “โรคหัดดอกกุหลาบ” คืออาการทางผิวหนังชนิดหนึ่ง มักพบในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10-35 ปี แต่อาจพบในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ลักษณะอาการคือผู้ป่วยจะมีผื่นคันสีแดง ลักษณะเป็นวงรีขึ้นที่บริเวณลำตัว แขน ขา และแผ่นหลัง ผื่นที่พบจะมีลักษณะเป็นขุยเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-5 เซนติเมตร ผื่นกุหลาบสาเหตุ มักเกิดจากภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง สภาพอากาศช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว การแพ้แมลง หรือการได้รับเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางอย่าง
ผื่นกุหลาบเกิดจากอะไร?
สาเหตุของการเกิดดรคนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตตัวเองว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ร่างกายเกิดผื่นขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยง แต่โดยทั่วไปแล้วโรคผื่นกุหลาบเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- ภาวะภูมิคุ้มกันลดลง
- การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสบางอย่าง
- ความเครียด
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- แมลงกัดต่อย
ผื่นกุหลาบมีอาการเป็นอย่างไร?
ผื่นกุหลาบอาการที่พบได้จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ซึ่งจะมีลักษณะอาการแตกต่างกันไปรวมถึงความรุนแรงจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา โดยแต่ละระยะมีอาการดังนี้
ระยะแรก
ในระยะแรกอาการมักเริ่มต้นด้วยผื่นแดงวงกลมหรือวงรีขนาดใหญ่เรียกว่า “ผื่นนำ” (Herald Patch) มีลักษณะเป็นขุยเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-5 เซนติเมตร ผื่นกุหลาบมักขึ้นที่บริเวณลำตัว เช่น หน้าอก ท้อง หรือหลัง บางครั้งอาจขึ้นที่คอหรือต้นแขนต้นขาได้เช่นกัน ผื่นนำมักปรากฏขึ้นก่อนผื่นอื่น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์
ระยะที่ 2
หลังจากระยะผื่นนำประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเริ่มมีผื่นขนาดเล็กขึ้นกระจายทั่วลำตัว โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก หลัง และท้อง ลักษณะเป็นวงรี ขอบสีแดง มีขุยตรงกลาง ลักษณะผื่นที่เรียงตัวตามแนวเส้นของผิวหนัง (Langer’s line) ทั้งสองข้าง ของหน้าอก หรือหลัง ทำให้มีลักษณะคล้ายต้นคริสต์มาส (Christmas Tree Pattern) อาจมีอาการคันร่วมด้วย โดยมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ตั้งแต่คันเล็กน้อยจนถึงคันมาก
ใครเสี่ยงเป็นโรคผื่นกุหลาบบ้าง?
ผื่นกุหลาบนั้นสามารถพบได้ในบุคคลทั่วไปทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยกลุ่มเสี่ยงต่อโรคมากกว่าปกติ ได้แก่
- เด็กและผู้ใหญ่ตอนต้น ช่วงอายุ 10-35 ปี
- เพศหญิง พบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคผื่นกุหลาบมากกว่าผู้ชาย
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ผู้ป่วย HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศช่วงฤดูหนาวและฤดูฝน ผู้ป่วยโรคผื่นกุหลาบบางรายอาจมีประวัติโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนนำมาก่อน
- ผู้ที่มีความเครียด เนื่องจากความเครียดเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดผื่นกุหลาบได้
ปรึกษาหมอออนไลน์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน สะดวก เป็นส่วนตัว
ส่งยาถึงที่ ไม่มีค่าจัดส่ง
ผื่นกุหลาบวินิจฉัยอย่างไร?
โรคที่มีอาการคล้ายกับโรคผื่นกุหลาบ เช่น โรคซิฟิลิสระยะที่ 2 หรือที่เรียกว่า ซิฟิลิสระยะออกดอก, โรคสะเก็ดเงินชนิดลักษณะคล้ายหยดน้ำ (Guttate psoriasis), โรคกลาก (Ringworm), ผื่นแพ้ยาบางชนิด ซึ่งการวินิจฉัยโรคผื่นกุหลาบทำได้โดยวิธีดังนี้
- ซักประวัติและการตรวจร่างกาย เช่น อาการ ระยะเวลาที่เป็นผื่น
- การดูลักษณะผื่น แพทย์จะดูผื่นนำ (Herald Patch) และผื่นกระจาย (Secondary Eruption) ว่ามีลักษณะและการเรียงตัวอย่างไร
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น กลาก เกลื้อน แพทย์อาจขูดผิวหนังบริเวณผื่นเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อรา
- การตรวจเลือด พบได้น้อย
- การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Skin Biopsy)
วิธีรักษาผื่นกุหลาบ
ผื่นกุหลาบมักหายได้เองใน 6-8 สัปดาห์ โดยไม่ต้องรักษา แต่บางรายอาจมีผื่นอยู่นานถึง 3-4 เดือนหรือนานกว่า ในกรณีที่จำเป็นต้องรักษา สามารถบรรเทาอาการได้ดังนี้
- ใช้ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines)
- ใช้ครีมสเตียรอยด์ ครีมบำรุงผิว หรือให้ความชุ่มชื้นผิว (Emollient)
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนและการใช้สบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง
- สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงความเครียด
วิธีป้องกันผื่นกุหลาบ
วิธีป้องกันผื่นกุหลาบนั้นสามารถทำได้โดยการดูแลรักษาสุขภาพโดยรวมและดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยวิธีดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน เช่น สบู่และครีมที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัดหรือการถูผิวแรง ๆ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เนื้อนิ่ม ไม่ระคายเคืองผิว ไม่รัดแน่น
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นผื่นกุหลาบ
เมื่อเป็นผื่นกุหลาบนอกจากวิธีการทานยาและทายาตามที่แพทย์สั่งแล้ว การดูแลตัวเองเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีเช่น
- หลีกเลี่ยงการเกาเมื่อเกิดผื่นคันเพราะอาจทำให้เกิดแผลจนทำให้ติดเชื้อได้
- ไม่ควรอยู่ในที่ ๆ มีอากาศหนาวและแห้งตลอดเวลา
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นเพราะจะทำให้ผิวแห้งคัน
- ใช้ผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งประคบบริเวณผื่นเพื่อลดอาการคันและการอักเสบ
- หากมีอาการคันมากอาจใช้ยาทาแก้คัน เช่น คาลาไมน์โลชั่นหรือยาสเตียรอยด์ชนิดอ่อน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
- ยาแก้แพ้ ในกรณีที่คันมากแพทย์อาจสั่งยาแก้แพ้ชนิดรับประทานเพื่อบรรเทาอาการ
- ทาออยล์หรือโลชันหลังอาบน้ำเสร็จเป็นประจำเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ซักทำความสะอาด เปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน และผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ
- ไม่เปลี่ยนสกินแคร์หรือเครื่องสำอางบ่อย ๆ เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพ้ผลิตภัณฑ์
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการผื่นกุหลาบ
1. ผื่นกุหลาบกับสะเก็ดเงินต่างกันอย่างไร?
ผื่นกุหลาบกับโรคสะเก็ดเงินนั้นแตกต่างกัน โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) คือโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นผื่นคันหนา นูน แดง มักมีลักษณะเป็นวงกลมและมีสะเก็ด มีขุย สามารถพบได้ทั้งบริเวณลำตัว แขน ขา ข้อพับ รักแร้ ขาหนีบ ศีรษะหรือบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อย ผู้ป่วยสะเก็ดเงินมักมีอาการคันร่วมด้วย
ในขณะที่ผื่นกุหลาบPityriasis Rosea คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่งลักษณะอาการคือผู้ป่วยจะมีผื่นสีแดงลักษณะเป็นวงรีขึ้นที่บริเวณลำตัว แขน ขา และแผ่นหลัง ผื่นที่พบจะมีลักษณะเป็นขุยเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-5 เซนติเมตร ผื่นกุหลาบสาเหตุมักเกิดจากภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง สภาพอากาศช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว การแพ้แมลง หรือการได้รับเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางอย่าง
2. ยาทาผื่นกุหลาบใช้อะไรดี ?
โดยปกติแล้วแพทย์อาจจ่ายยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) ที่เป็นยาเม็ดสำหรับรับประทานร่วมกับครีมสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง สิ่งที่ควรระวังคือผู้ป่วยไม่ควรหาซื้อยามาใช้รักษาโรคผื่นกุหลาบเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
ไม่แน่ใจว่าเป็นผื่นกุหลาบหรือไม่ ปรึกษาแพทย์ได้ทันที
ในกรณีที่ผื่นมีอาการคันมากหรือมีบริเวณกว้าง แพทย์อาจให้การรักษาด้วยยา หรือการรักษาอื่น เช่น การใช้แสงบำบัด หรือ การใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยา Acyclovir เป็นต้นถึงแม้ว่าผื่นกุหลาบอาจหายได้เองแต่ผู้ป่วยไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากอาการของโรคผื่นกุหลาบมักใช้ระยะเวลานานในการรักษา และอาจคล้ายกับโรคหรือความผิดปกติอื่น ๆ
เมื่อพบผื่นคันควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้นและรับการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้อาการผื่นลุกลาม ปรึกษาหมอออนไลน์ พยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรได้เลยที่นี่
BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอคิว ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
นพ. จิติศักดิ์ พูนศรีสวัสดิ์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เวชศาสตร์ป้องกัน และอาชีวเวชศาสตร์
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Pityriasis rosea – Symptoms & causes – Mayo Clinic. (2024, July 12). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pityriasis-rosea/symptoms-causes/syc-20376405
Pityriasis rosea: Diagnosis and treatment. (n.d.-b). https://www.aad.org/public/diseases/a-z/pityriasis-rosea-treatment
Pityriasis rosea. (2023, July 12). DermNet®. https://dermnetnz.org/topics/pityriasis-rosea
Méndez, A., Stevens, C., & Murina, A. (2023). From the Cochrane Library: Interventions for Pityriasis Rosea. JMIR Dermatology, 6, e45388. https://doi.org/10.2196/45388