คิดบวก

Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

Key Takeaways

  • การคิดบวกช่วยฝึกสมองของเราให้โฟกัสกับเรื่องดี ๆ เมื่อเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ การคิดบวกจะช่วยให้เรามีความแข็งแกร่งและไม่ท้อแท้
  • การคิดบวกช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง
  • การคิดบวกช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้าง ทำให้เรามองโลกในแง่ดีและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นมากขึ้น
สารบัญบทความ

ทำไมเราจึงควร “คิดบวก” ?

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “คิดบวก” หรือ Positive Thinking ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเราควรเป็นคนที่คิดบวก ใช้ชีวิตแบบมองแต่เรื่องดี ๆ ทำไมเราถึงควรเป็นคนคิดในแง่ดี? คิดบวกแล้วดีจริงหรือไม่ ?

 

การคิดบวกช่วยลดระดับความเครียด ความวิตกกังวล และความหดหู่ ทำให้เรามีสมาธิและพลังงานในการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น การคิดในแง่ดีเป็นการฝึกสมองของเราให้โฟกัสกับเรื่องดี ๆ เมื่อเผชิญกับความยากลำบากหรืออุปสรรคต่าง ๆ การคิดในแง่ดีจะช่วยให้เรามีความแข็งแกร่งและไม่ท้อแท้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าคนที่คิดในแง่ดีมักมีสุขภาพดีขึ้น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานอีกด้วย

 

BeDee Tips: 10 วิธีจัดการความเครียด ทำง่าย ได้ผล อ่านเลย!

เคล็ดลับ 9 วิธีคิดบวก เปลี่ยนตัวเองให้มีความสุขมากขึ้น

วิธีมองโลกในแง่ดี

คำถามสำคัญคือแล้วเราจะทำอย่างไรให้ตัวเองเป็นคนคิดบวก การคิดในแง่ดีนั้นต้องใช้การฝึกฝนเพื่อให้เกิดเป็นนิสัยซึ่งจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองได้ระยะยาว วิธีคิดบวกสามารถทำได้ดังนี้

1. มองหาข้อดีจากเรื่องราวต่าง ๆ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างมักมีเรื่องที่ดีซ่อนอยู่ การมองหาแง่ดีจากปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วยให้เราเห็นสิ่งดี ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก แต่ก็อาจจะเป็นบทเรียนที่สอนให้เราแข็งแกร่งขึ้น เช่น “อย่างน้อยฉันก็ได้เรียนรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์นี้”

2. ชื่นชมและยินดีกับสิ่งรอบตัว

การสังเกตและชื่นชมสิ่งดี ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ สิ่งของ หรือแม้แต่คนรอบข้าง เช่น พูดคำชมให้กำลังใจแก่ผู้อื่น จะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น รู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามีหรือได้พบ และช่วยลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น นอกจากนี้การโฟกัสไปที่สิ่งดี ๆ จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจออกจากความเครียดและความกังวล ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

3. มองข้ามปัญหาที่เล็กน้อย

ทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตถ้าเรามัวแต่นั่งจดจ่ออยู่กับด้านแย่ ๆ แน่นอนว่าเราคงจะไม่เห็นด้านดี ๆ ในชีวิตเลย ชีวิตจะเต็มไปด้วยปัญหาหากเรามัวแต่มองไปที่สิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญ ลองปล่อยให้ปัญหาที่ไม่ใหญ่หลวงนักผ่านไปบ้าง อย่าเก็บทุกปัญหามาแบกไว้บนบ่า เพราะมันจะทำให้เรามองไม่เห็นสิ่งดี ๆ ที่มีในชีวิต การโฟกัสที่สิ่งที่สำคัญจะช่วยให้เรามีความสุขและสงบมากขึ้น

4. ใส่ใจตัวเองมากขึ้น

การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดี และการพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังงานและความสุขในชีวิต การใส่ใจตัวเองทำให้เรามีพลังบวก และสามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้นอย่างมีความสุข

5. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง

การอนุญาตให้ตัวเองมีความสุขหรือได้ยินดีบ้างจะช่วยให้กำลังใจตัวเองและเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันได้ดีอย่างยิ่ง การให้รางวัลกับตัวเองจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจและกำลังใจในการทำงานต่าง ๆ เสร็จสิ้น รวมถึงช่วยลดความเครียดในชีวิต การทำกิจกรรมที่ชอบ หรือการให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การนอนตื่นสาย หรือการกินอาหารที่อยากทาน จะช่วยเติมเต็มความสุขในแต่ละวัน

6. ทบทวนสิ่งดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้น

อีกวิธีที่จะช่วยฝึกให้สมองเรามองหาแต่เรื่องดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาคือการทบทวนสิ่งดี ๆ ในแต่ละวัน ตัวอย่างวิธีการที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่น การฝึกเขียน Gratitude Journal หรือการเขียนบันทึกถึงสิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในแต่ละวันด้วยวิธีดังนี้

 

  • ก่อนจะหมดวัน ลองใช้เวลาคิดทบทวนถึงประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกดีและอยากขอบคุณ เพียง 3 สิ่งในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาเลือกเฉพาะเรื่องราวดี ๆที่เป็นด้านบวก อาจจะเป็นเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้รู้สึกดี
  • เขียนบันทึกความรู้สึกขอบคุณ อธิบายถึงสิ่งที่เรารู้สึกถึงด้านบวกจากประสบการณ์นั้น อาจใช้แนวคำถามเหล่านี้เพื่อช่วยในการเริ่มต้นเขียนบันทึก เช่น คุณพบสิ่งหรือคนที่อยากขอบคุณเมื่อไหร่ ? สิ่งนั้นทำให้คุณรู้สึกอย่างไร ? เพราะอะไรจึงรู้สึกแบบนั้น ?
  • สิ่งสำคัญคือการตั้งใจเขียน ให้เวลา รู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งที่เขียนจริง ๆ และเน้นเป็นเรื่องที่เป็นด้านบวก

7. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งที่ดี

การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งที่ดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะส่งผลดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ วิธีการเริ่มต้นวันอย่างมีคุณภาพ เช่น การออกกำลังกายในตอนเช้าจะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกดี ลดความเครียด นอกจากนี้อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมาก อย่าลืมเลือกทานสิ่งดี ๆ เพื่อเพิ่มพลังงานและประโยชน์ให้กับร่างกาย การทานอาหารเช้าจะช่วยให้อารมณ์ดีและมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น

 

BeDee Tips: ไอเดีย 12 เมนูอาหารเช้าลดความอ้วน ทำง่าย อร่อย ได้ประโยชน์ อ่านเพิ่มเติมเลย

8. ฝึกสมาธิ มีสติในการใช้ชีวิต

บางครั้งเราอาจจะเกิดความรู้สึกวิตกกังวล ฟุ้งซ่าน โฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ หรือเรื่องราวในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การฝึกกำหนดลมหายใจหรือการดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันสามารถช่วยได้

9. เรียนรู้บางสิ่งจากข้อผิดพลาด

การที่เราไม่ใช่คนคิดบวกบางครั้งอาจเป็นเพราะเราโฟกัสกับสิ่งแย่ ๆ หรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านั้น เราสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีตและนำมาปรับใช้กับปัจจุบันเพื่อสร้างความทรงจำและผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

 

ปรึกษาจิตแพทย์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน สะดวก เป็นส่วนตัว 

ส่งยาถึงที่ ไม่มีค่าจัดส่ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการคิดบวก

1. คิดบวกส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างไร?

การคิดบวกช่วยให้เราจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น เมื่อเจอปัญหาเราจะมองหาทางออกมากกว่าจะจมอยู่กับความกังวล การมองหาสิ่งดี ๆ ทำให้เรารู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามีและมีความสุขกับปัจจุบันมากขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับผู้อื่น การทำงาน หรือแม้แต่สุขภาพกายที่ดีขึ้น

2. หากคิดบวกไม่ได้ควรทำอย่างไร ?

หากลองพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนคิดบวกแล้วแต่พบว่าตัวเองก็ยังไม่มีความสุข แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

คิดบวกช่วยให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ ปรึกษาสุขภาพใจกับคุณหมอได้เลยที่นี่

ลองเปลี่ยนตัวเองหาเวลาสังเกตสิ่งดี ๆ รอบตัว สังเกตคนรอบข้าง หรือชมตัวเองเมื่อมีความสำเร็จเล็ก ๆ น้อยๆ การมองหาแต่สิ่งดี ๆ จะช่วยให้เรารู้สึกมีความสุบและมีกำลังใจในการก้าวต่อไปได้ แต่หากมีปัญหาสุขภาพใจ ปรึกษาหมอออนไลน์ พยาบาล หรือปรึกษาเภสัชกรได้เลยที่นี่ 

 

BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล

 

สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

Content powered by BeDee Expert

ธนวินท์ มีลาภอุดมชัย
นักจิตวิทยาคลินิก

 

เรียบเรียงโดย

กรวรรณ ใจซื่อกุล

12 Ways to Stay Positive. (2022, November 10). chcp. https://www.chcp.edu/blog/how-to-think-positive/

 

Barkley, S. (2024, March 26). How to Think Positive. Psych Central. https://psychcentral.com/health/how-to-think-positive#increase-positivity

 

Mayo Clinic Staff. (2023, November 21). Positive thinking: Stop negative self-talk to reduce stress. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/positive-thinking/art-20043950

บทความที่เกี่ยวข้อง

นอนไม่หลับทำไงดี? บางทีเหนื่อยจากงานหรือง่วงมาก ๆ แต่ทำไมหัวถึงหมอนแล้วกลับนอนไม่หลับ พยายามข่มตานอนก็ดันนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิม จะทำยังไงถึงจะเอาชนะ อาการนอนไม่หลับได้นะ?   เนื่องจากปัญหาการนอนไม่หลับ นอนหลับยาก หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนนั้น อาจส่งผล

สัญญาณเตือนภาวะหมดไฟในการเรียน เช่น รู้สึกเหนื่อย อ่อนล้าทั้งกายและใจ นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ วิตกกังวล รู้สึกกดดัน อาการหมดไฟในการเรียนอาจทำให้เกิดภาวะเครียดเรื้อรัง อารมณ์หม่นหมอง หรืออาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าตามมาได้ การปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป